เปิดนาทีตำรวจซ้อนแผนจับ “เจ้าหน้าที่สรรพสามิต” อุ้มพนักงานร้านขายมือถือขึ้นรถ รีดเงิน 3 แสนบาท
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 เดือนมกราคม 2566 MR.WU อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งเหตุกับ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างถึงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ
ก่อนที่จะจับ ผู้จัดการร้าน ลูกน้อง ชาวพม่า ขึ้นรถไป พร้อมด้วยเรียก เก็บเงินกว่า 3 แสนบาท แลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ห้องแถว เลขที่ ตำบล ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จังหวัดสมุทรปราการ
MR.WU กล่าวว่า ตนเองเป็นน้องชาย เจ้าของร้าน เปิดขาย อุปกรณ์มือโทรศัพท์มือถือมานานแล้ว
แต่ก่อนเคยเปิดอยู่ในห้าง ก่อนที่จะย้ายมาเปิดเช่าห้องแถว ที่เขต ซอยอู่ทอง ถัดมา ระหว่างนี้ตนเองจะมีหน่วยงานราชการ ตนเองไม่ขอเอ่ยว่า เป็นหน่วยงานใด เข้ามาเก็บค่าลิขสิทธิ์ ที่้ร้านอยู่บ่อย ซึ่งตนเองก็ยอมจ่ายไป เพราะเหตุว่าไม่ได้อยากต้องการมีปัญหา
กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวเองไม่อยู่ โดยมีน้อง และ ลูกจ้างหญิง ชาวเมียนมาร์ เฝ้าร้านอยู่กันสองคน มีชายฉกรรจ์ 6-7 คน อ้างถึงว่า กรมสรรพสามิต ขับขี่รถมาหยุดหน้าร้าน ก่อนที่จะเข้ามา ขอค้นที่ร้าน พร้อมด้วยกล่าวว่า อุปกรณ์ ที่ขายอยู่ผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี
ก่อนที่จะจับตัวน้อง และลูกจ้างขึ้นรถไป กระทั่งกลุ่มดังกล่าว ติดต่อมาหาตนว่า ต้องเสียค่าปรัก กว่า 3 แสนบาท ต่อมาได้มีการต่อลองลงมา จนกระทั่งเหลือ 5 หมื่นบาท แต่ตัวเองเกรงว่าจะน้อง จะไม่ปลอดภัย และไม่มั่นใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ ก็เลยเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวน นำโดย พ.ต.ต.ชัชพงศ์ ขาวสะอาด สว.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้นัดหมาย กับผู้เสียหาย ให้บอกคุยกับทาง กลุ่มชายฉกรรจ์ และพูดว่า จะนำเงินไปให้ตามตกลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะซ้อนแผนเข้าจับ มีการนัดมอบเงินกันที่ บริเวณปั๊มน้ำมัน ข้างถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ
โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปดักซุ่ม ข้างโรงเรียนนายเรือ ถนนหนทางสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปแอบซุ่มคอยกระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจอรถยนต์ปิ๊กอัพ โตโยต้า รีโว่ สีบรอนเงิน ทะเบียน 3 ขฌ 8533 หยุดอยู่ในปั้ม และมีผู้เสียหาย ทั้งสองคน นั่งอยู่ในรถยนต์ด้วย
จากนาย MR.WU ก็เลยนำซองกระดาษ ข้างในมีเงินกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ถ่ายเอกสาร ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เดินลงจากรถยนต์ ไปมอบให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ จนถึงได้สัญญาณ ตำรวจ เข้าไปปิดล้อมขอตรวจค้น
พบว่าในรถยนต์มีชาย 3 คน อ้างถึงว่าตัวเองเป็น เจ้าหน้าที่สรรพสามิต
ส่วนเงินที่เจอในรถยนต์อ้างว่าผู้เสียหายนำมาให้ เพื่อจะไปชำระค่าปรับ แต่เจ้าหน้าที่ ไม่เชื่อจึงนำตัวชายทั้งสามคนมาสืบสวน ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
ทั้งนี้จากการตรวจตราในรถ เจอบัตรราชการ ของ ป.ป.ส.ระบุชื่อ นายสวโรจน์ โฉมงาม ระบุตำแหน่ง เจ้าพนักงาน ชำนาญงาน สังกัด กรมสรรพสามิต อยู่บนรถยนต์ และยังพบเสื้อกั๊กสีดำซึ่งติดโลโก้ของ กรมสรรพสามิต 2 ตัว วางอยู่ในรถด้วย
ถามไถ่ นางสาวมลธิลา ใจพรม 21 ปี ผู้จัดการร้าน พูดว่า ขณะที่ตนเองนั่งอยู่ในร้าน มีชายฉกรรจ์มากว่า 6-7 คน ใส่เสื้อกั๊กติดตราของ กรมสรรพสามิต เข้ามาในร้าน ขอตรวจหา และกล่าวว่าตนเองขายของหนีภาษี
ก่อนที่จะพาตนเองขึ้นรถไป ต่อมาชายทั้งสามคน พาตนไปจอดรถยนต์อยู่ บริเวณหน้าสำนักงาน กรมสรรพสามิต ใกล้ศาลากลางจังหวัด สมุทรปราการ แต่ไม่ได้พาเข้าไปในที่ทำการ
ต่อมา กลุ่มชายดังกล่าว ข่มขู่ว่าว่าถ้าไม่นำเงิน 3 แสนบาทมาจ่ายค่าปรับตามตกลง หากถูกตำรวจจับจะเรื่องสำคัญกว่านี้ และต้องขึ้นศาล ด้วยความหวาดกลัวตัวเองก็เลย โทรไปหาเจ้าของร้าน และเล่ารายละเอียดให้ฟัง จนกระทั่งมีการต่อลองจนราคาน้อยลง 8 หมื่นบาท แต่ทางเจ้าของร้านมี 5 หมื่น ก่อนที่จะมีการนัดหมาจ่ายเงินกัน ที่ปั้ม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ไต่สวนเบื้องต้น ทราบดีว่า ชายที่ถูกจับได้ เป็นเจ้าหน้าที่ของ กรมสรรพสามิต 2 คน สังกัด สรรพสามิตส่วนกลางเป็นสำนักตรวจสอบป้องกัน และปราบปราม หรือเรียกว่า (สตป.) และ พลเรือน 1 คน ส่วนรายละเอียด อยู่ระหว่างการสอบสวน
ทั้งนี้ยังเจออีกว่า มีรถอีกคัน ซึ่งน่าจะเป็นของกลุ่มที่เหลือ หลังพบตำรวจ พากันขับหนีไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดเรียกตัวมาสอบปากคำถัดไป